วันศุกร์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

แบบฝึกหัดที่8

            แบบฝึกหัดบทที่8 การสารสนเทศตามกฎหมายและจริยธรรม


แบบฝึกหัดบทที่ 8 การสารสนเทศตามกฎหมายและจริยธรรม กลุ่มที่เรียน 1
รายวิชาการจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน รหัสวิชา 0026008
ชื่อ นางสาว พุฒิพร สกุล พิมพ์ครซ้าย คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมการผลิต
ระบบปกติ  รหัสนิสิต 57010310153 


คำชี้แจง จงพิจารณากรณีศึกษานี้

1) “นาย ทำการเขียนโปรแกรมขึ้นมาโปรแกรมหนึ่งเพื่อทดลองโจมตีการทำงานของคอมพิวเตอร์
สามารถใช้งานได้ โดยทำการระบุ IP-Address โปรแกรมนี้สร้างขึ้นมาเพื่อทดลองในงานวิจัย นาย ที่
เป็นเพื่อนสนิทของนาย ได้นำโปรแกรมนี้ไปทดลองใช้แกล้งนางสาว เมื่อนางสาว ทราบเข้าก็เลยนำโปรแกรมนี้ไปใช้และส่งต่อให้เพื่อนๆ ที่รู้จักได้ทดลอง” การกระทำอย่างนี้เป็น ผิดจริยธรรม หรือผิดกฎหมายใดๆ หรือไม่ หากไม่ผิดเพราะเหตุใด และหากผิด ผิดในแง่ไหน จงอธิบาย
          ผิด เพราะ เป็นการใช้โปรแกรมในทางที่ผิด ทำให้ผู้อื่นได้รับความเดือนร้อน หรือทำให้ผู้อื่นเกิดความเสียหาย
ความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
มาตรา ๕ ผู้ใดเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้น มิได้มีไว้สำหรับตน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๖ ผู้ใดล่วงรู้มาตรการป้องกันการเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ที่ผู้อื่นจัดทำขึ้นเป็นการเฉพาะถ้านำมาตรการดังกล่าวไปเปิดเผยโดยมิชอบ ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๗ ผู้ใดเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๑๐ ผู้ใดกระทำด้วยประการใดโดยมิชอบ เพื่อให้การทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นถูกระงับ ชะลอ ขัดขวาง หรือรบกวนจนไม่สามารถทำงานตามปกติได้ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

2) นาย ได้ทำการสร้างโฮมเพจ เพื่อบอกว่าโลกแบนโดยมีหลักฐาน อ้างอิงจากตำราต่างๆ อีกทั้ง
รูปประกอบ เป็นการทำเพื่อความสนุกสนาน ไม่ได้ใช้ในการอ้างอิงทางวิชาการใดๆ เด็กชาย เป็นนักเรียนในระดับประถมปลายที่ทำรายงานส่งครูเป็นการบ้านภาคฤดูร้อนโดยใช้ข้อมูลจากโฮมเพจของนาย J” การกระทำอย่างนี้เป็น ผิดจริยธรรม หรือผิดกฎหมายใดๆ หรือไม่ หากไม่ผิดเพราะเหตุใด และหากผิด ผิดในแง่ไหน จงอธิบาย
          ไม่ผิดเพราะนาย สร้างขึ้นเพื่อความสนุกและต้องการให้คนอื่นได้รู้จึงไม่ผิดกฎหมายและจริยธรรม และมีการอ้างอิงชัดเจน

แบบฝึกหัดที่7

            แบบฝึกหัดบทที่ 7 ความปลอดภัยของสารสนเทศ

แบบฝึกหัดบทที่ 7 ความปลอดภัยของสารสนเทศ กลุ่มที่เรียน 1
รายวิชาการจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน รหัสวิชา 0026008
ชื่อ นางสาว พุฒิพร สกุล พิมพ์ครซ้าย คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมการผลิต
ระบบปกติ  รหัสนิสิต 57010310153 

คำชี้แจง จงตอบคำถามต่อไปนี้

1. หน้าที่ของไฟร์วอลล์ (Firewall) คือ ไฟร์วอลล์จะสามารถช่วยป้องกันไม่ให้แฮกเกอร์หรือซอฟต์แวร์ที่เป็นอันตราย (เช่น หนอน) ซึ่งหนอน Worm  คือ โปรแกรมทางคอมพิวเตอร์ที่ถูกออกแบบมาให้สามารถแพร่กระจายตัวเองจากเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่ง ไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์อีกเครื่องหนึ่ง โดยจะอาศัยระบบเน็ตเวิร์ค (E-mail) ซึ่งการแพร่กระจายสามารถทำได้ด้วยตัวของมันเอง ซึ่งจะสามารถแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็วและทำความเสียหายรุนแรงกว่าไวรัสมาก ซึ่งหนอนนี้จะเข้าถึงคอมพิวเตอร์ของคุณผ่านทางเครือข่ายหรืออินเทอร์เน็ต และนอกจากนี้ ไฟร์วอลล์ยังช่วยหยุดไม่ให้คอมพิวเตอร์ของคุณส่งซอฟต์แวร์ที่เป็นอันตรายไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆอีกด้วย

2. จงอธิบายคำศัพท์ต่อไปนี้ ที่เกี่ยวข้องกับไวรัสคอมพิวเตอร์ worm , virus computer, spy ware,adware
Worm คือ คัดลอกตัวเองและสามารถส่งตัวเองไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆได้อย่างอิสระ โดยอาศัยอีเมล์หรือช่องโหว่ของระบบปฏิบัติการ มักจะไม่แพร่เชื่อไปติดไฟล์อื่น สิ่งที่มันทำคือมักจะสร้างความเสียหายให้กับระบบเครือข่าย
Virus computerคือ แพร่เชื้อไปติดไฟล์อื่นๆในคอมพิวเตอร์โดยการแนบตัวมันเองเข้าไป มันไม่สามารถส่งตัวเองไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆได้ต้องอาศัยไฟล์พาหะ สิ่งที่มันทำคือสร้างความเสียหายให้กับไฟล์
Spy ware คือ ไม่แพร่เชื้อไปติดไฟล์อื่นๆ ไม่สามารถส่งตัวเองไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆได้ ต้องอาศัยการหลอกคนใช้ให้ดาวโหลดเอาไปใส่เครื่องเองหรืออาศัยช่องโหว่ของ web browser ในการติดตั้งตัวเองลงในเครื่องเหยื่อ สิ่งที่มันทำคือรบกวนและละเมิดความเป็นส่วนตัวของผู้ ใช้
adware คือ  เป็นโปรแกรมแอบซ่อนอีกตัวหนึ่ง คล้ายๆ สปายแวร์ คือมาพร้อมกับอีเมล์ขยะและ/หรือเว็บไซต์ทางการค้าที่คุณเปิดเข้าไปดู แม้แต่พวกการ์ตูนหรือเกมน่ารักๆ ที่ให้คุณดาวน์โหลดมาไว้ดู/เล่นฟรีบนเครื่องคอมพิวเตอร์ ก็มักถูกติดแอดแวร์และสปายแวร์เอาไว้ เจ้าแอดแวร์ที่ว่านี้จะทำงานอัตโนมัติ เวลาที่คุณใช้อินเทอร์เน็ตมันจะเด้งหรือ Pop-Up หน้าจอของมันขึ้นมา หลอกล่อด้วยข้อความต่างๆ เพื่อให้คุณกดคลิกเข้าไป ดึงคุณไปยังเว็บไซต์การค้าของเขา ซึ่งส่วนมากจะเป็นเว็บไซต์สำหรับผู้ใหญ่ เช่นขายภาพ หรือวีดีโอคลิปโป๊ หรือพวกธุรกิจขายตรงต่างๆ อันที่จริงแล้วแอดแวร์กับสปายแวร์มีลักษณะใกล้ เคียงกัน ดังนั้นโปรแกรมดักจับและลบแอดแวร์ก็จะลบสปายแวร์ด้วยเช่นกัน

3. ไวรัสคอมพิวเตอร์แบ่งออกเป็นกี่ชนิด อะไรบ้าง
ไวรัสคอมพิวเตอร์แบ่งเป็น ประเภทดังนี้
1.บูตไวรัส
บูตไวรัส (boot virus) คือไวรัสคอมพิวเตอร์ที่แพร่เข้า สู่ เป้าหมายในระหว่างเริ่มทำการบูต เครื่อง ส่วนมาก มันจะติดต่อเข้าสู่แผ่นฟลอปปี้ดิสก์ระหว่างกำลังสั่งปิดเครื่อง เมื่อนำแผ่นที่ติดไวรัสนี้ไปใช้ กับเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆ ไวรัสก็จะเข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์ตอนเริ่มทำงานทันทีบูตไวรัสจะติดต่อเข้าไปอยู่ส่วน หัวสุดของฮาร์ดดิสก์ ที่มาสเตอร์บูตเรคคอร์ด (master boot record) และก็จะโหลดตัวเองเข้าไปสู่หน่วย ความจำก่อนที่ระบบปฏิบัติการจะ เริ่มทำงาน ทำให้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
2.ไฟล์ไวรัส
ไฟล์ไวรัส (file virus) ใช้เรียกไวรัสที่ติดไฟล์โปรแกรม เช่นโปรแกรมที่ดาวน์โหลดจากอินเทอร์เน็ต นามสกุล.exe โปรแกรมประเภทแชร์แวร์เป็นต้น
3.มาโครไวรัส
มาโครไวรัส (macro virus) คือไวรัสที่ติดไฟล์เอกสารชนิดต่างๆ ซึ่งมีความสามารถในการใส่คำสั่ง มาโครสำหรับทำงานอัตโนมัติในไฟล์เอกสารด้วย ตัวอย่างเอกสารที่สามารถติดไวรัสได้ เช่น ไฟล์ไมโครซอฟท์เวิร์ด ไมโครซอฟท์เอ็กเซล เป็นต้น
4.หนอน
หนอน (Worm) เป็นรูปแบบหนึ่งของไวรัส มีความสามารถในการทำลายระบบในเครื่องคอมพิวเตอร์สูงที่สุดในบรรดาไวรัสทั้ง หมด สามารถกระจายตัวได้รวดเร็ว ผ่านทางระบบอินเทอร์เน็ต ซึ่งสาเหตุที่เรียกว่าหนอนนั้น คงจะเป็นลักษณะของการกระจายและทำลาย ที่คล้ายกับหนอนกินผลไม้ ที่สามารถกระจายตัวได้มากมาย รวดเร็ว และเมื่อยิ่งเพิ่มจำนวนมากขึ้น ระดับการทำลายล้างยิ่งสูงขึ้น
5.โทรจัน
ม้าโทรจัน (Trojan) คือโปรแกรมจำพวกหนึ่งที่ถูกออกแบบขึ้นมาเพื่อแอบแฝง กระทำการบางอย่าง ในเครื่องของเรา จากผู้ที่ไม่หวังดี ชื่อเรียกของโปรแกรมจำพวกนี้ มาจากตำนานของม้าไม้แห่งเมืองทรอยนั่นเอง ซึ่งการติดนั้น ไม่เหมือนกับไวรัส และหนอน ที่จะกระจายตัวได้ด้วยตัวมันเอง แต่โทรจัน (คอมพิวเตอร์)จะ ถูกแนบมากับ อีการ์ด อีเมล์ หรือโปรแกรมที่มีให้ดาวน์โหลดตามอินเทอร์เน็ตในเว็บไซต์ใต้ดิน และสุดท้ายที่มันต่างกับไวรัสและเวิร์ม คือ มันจะสามารถเข้ามาในเครื่องของเรา โดยที่เราเป็นผู้รับมันมาโดยไม่ รู้ตัวนั่นเอง

4. ให้นิสิตอธิบายแนวทางในการป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์มาอย่างน้อย ข้อ
1. ต้องมีการเปลี่ยนรหัสผ่านบ่อยๆ อย่างน้อยปีล่ะ 1 ครั้ง
2. มีการกำหนดสิทธิการเข้าใช้ระบบในส่วนที่จำเป็นเท่านั้น
3. มีการเข้ารหัสข้อมูลในคอมพิวเตอร์
4. มีระเบียบปฏิบัติในการควบคุมอย่างชัดเเจ้งในการใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ
5. ให้ความรู้อย่าสม่ำเสมอในเรื่องการรักษาความปลอดภัย การเตรียมตัวและการป้องกันการบุกรุกของเเฮกเกอร์ เเครกเกอร์ รวมถึงขั้นตอนการดูแลรักษาระบบคอมพิวเตอร์เมื่อถูกบุกรุก

5. มาตรการด้านจริยธรรมคอมพิวเตอร์ที่ควบคุมการใช้อินเทอร์เน็ตที่เหมาะสมกับสังคมปัจจุบัน ได้แก่
          1.มาตรการทางการบริหาร หน่วยงานของรัฐ ต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างจริงจัง รวมทั้งต้องมีบุคลากรที่เหมาะสม และเพียงพอต่อการปฏิบัติงาน และในขณะนี้ทางภาครัฐได้มีการดำเนินนโยบายขยายการใช้อินเทอร์เน็ตไปสู่ สังคมระดับรากหญ้า หากไม่มีการระมัดระวังและเตรียมการที่ดีก็อาจเป็นการเผยแพร่วัฒนธรรมและ กิจกรรมที่ไม่เหมาะสมบนอินเทอร์เน็ตไปสู่รากหญ้าและเยาวชนในชนบท แต่หากมีการเตรียมการที่ดี ตำบลอาจใช้อินเทอร์เน็ตเป็นสื่อในการกระจายความเจริญทางเทคโนโลยีและกระจาย องค์ความรู้ใหม่ ๆไปสู่สังคมได้ ดังนั้นหน่วยงานดังกล่าวจะต้องมีการวางมาตรการที่เด็ดขาดในการควบคุมดูแล พื้นที่ไซเบอร์ มีนโยบายที่ชัดเจน มีประสิทธิภาพ
          2.มาตรการทางกฎหมายหน่วยงานที่ทำหน้าที่ในการบังคับใช้กฎหมายต้องมีบุคลากรอย่างเพียงพอ เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นอกจากกำหนดให้การกระทำอันมิชอบทั้งหลายบนอินเทอร์เน็ต เป็นความผิดที่ไม่ต่างจากการกระทำในโลกจริงแล้วยังพยายามแก้ไขเพิ่มเติม กฎหมาย เพิ่มอำนาจการสืบสวนสอบสวน เพื่อแสวงหาพยานหลักฐานให้กับเจ้าพนักงานของรัฐรวมทั้งกำหนดให้ผู้ให้บริการ อินเทอร์เน็ตที่เกี่ยวพันกับข้อมูลการใช้อินเทอร์เน็ตทั้งหลายมีหน้าที่ตาม กฎหมายต้องจัดเก็บส่งมอบหรือให้ความร่วมมือกับเจ้าพนักงานเพื่อช่วยกันนำตัว ผู้กระทำความผิดมาลงโทษ
          3.มาตรการทางการ ควบคุมจรรยาบรรณ จะต้องมีเครือข่าย ที่มีการดูแล ผู้ประกอบอาชีพและทำกิจกรรมบนพื้นที่ไซเบอร์ ที่สามารถทำหน้าที่ได้อย่างต่อเนื่องและจริงจัง ควรมีการป้องกันการชี้นำความคิดที่ผิดให้แก่คนในสังคม การที่ต้องมีการกระตุ้นให้เกิดสมาคมและเครือข่ายเพื่อดูแลกันเอง เพราะการเก็บข้อมูล หรือแสดงข้อมูล เพื่อแสดงตัวตน และความน่าเชื่อถือในขอบเขตเรื่องธุรกิจ และพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ก็เพื่อให้สามารถยืนยันตัวตนของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น และองค์กร เครือ ข่าย สมาคม ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตยังสามารถช่วยเหลือคนในวงการอินเตอร์เน็ต ช่วยคนทำเว็บไซต์ ใช้สายสัมพันธ์ในการให้คำปรึกษาและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
          4.มาตรการทางสังคม ต้องยกระดับและพัฒนาสถาบันพื้นฐาน เช่น สถาบันครอบครัวสถาบันศาสนา สถาบันทางสังคม และสถาบันทางธุรกิจให้มีความรู้ ความสามารถด้านไอทีเพียงพอที่จะดูแลบุคคลในสถาบันของตน โดยที่ผู้นำองค์กรทางธุรกิจและสังคมต้องมีความรู้ทาง ไอทีเป็นอย่างดี
          5.มาตรการทางการศึกษา ควรพัฒนาการศึกษาระบบสารสนเทศและความรู้ไอทีให้กว้างขวาง รวมทั้งจัดทำหลักสูตรออนไลน์ ให้ครอบคลุมทุกสาขาวิชา ทั้งในและนอกระบบการศึกษา
          6.มาตรการทาง คุณธรรมและจริยธรรม ได้แก่ การจัดระบบการให้การศึกษาแก่ผู้ใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ทางด้านคุณธรรมและ จริยธรรม เพื่อให้เขาเหล่านั้นเข้าไปชักนำโลกเสมือนจริงและการทำกิจกรรมบนพื้นที่ไซ เบอร์ไปในทางที่ถูกที่ควร ดังนั้นการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดคือการส่งเสริมให้ประชาชนมีคุณธรรม จริยธรรมในการใช้เทคโนโลยี ประกาศใช้พระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ที่ชัดเจน ไม่คลุมเครือ ดำเนินการเอาผิดกับผู้ที่กระทำผิดอย่างจริงจัง มีผู้ควบคุมดูและระบบใหญ่และระบบย่อยทั้งหมด เพื่อไม่ให้เกิดการกระทำผิดขึ้น นอกจากนี้ต้องมีการส่งเสริมให้คนมีคุณภาพเข้ามาใช้อินเทอร์เน็ต และต้องสร้างเว็บไซต์ที่มีคุณภาพให้เกิดขึ้นมากๆ รณรงค์ให้ผู้บริหารฯ อาจารย์ นักวิชาการ หรือแม้กะทั่งนักเรียน นิสิต นักศึกษา ทำการเขียนบทความลงwebsite  webblog เหล่านี้จะเป็นการส่งเสริมผลักดันให้มีเว็บไซต์คุณภาพ ที่สำคัญคือสถานศึกษาต้องปลูกฝังจิตสำนึกของนักเรียนในสถาบันของตนเองให้มีความรู้ ความเข้าใจในการใช้Internet อย่างถูกต้อง

แบบฝึกหัดที่ 6

        แบบฝึกหัดบทที่ 6 การประยุกต์ใช้สารสนเทศในชีวิตประจำวัน


แบบฝึกหัดบทที่ 6 การประยุกต์ใช้สารสนเทศในชีวิตประจำวัน กลุ่มที่เรียน 1
รายวิชาการจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน รหัสวิชา 0026008
ชื่อ นางสาว พุฒิพร สกุล พิมพ์ครซ้าย คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมการผลิต
ระบบปกติ  รหัสนิสิต 57010310153 

คำชี้แจง จงเลือกคำตอบที่ถูกที่สุดเพียงคำตอบเดียว

1. การประยุกต์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์มาใช้ให้เกิดประโยชน์ เป็นความหมายของข้อใด?
1. เทคโนโลยีสารสนเทศ
2. เทคโนโลยี
3. สารสนเทศ
4. พัฒนาการ

2. เทคโนโลยีสารสนเทศใดก่อให้เกิดผลด้านการเสริมสร้างความเท่าเทียมกันในสังคม?
1. ควบคุมเครื่องปรับอากาศ
2. ระบบการเรียนการสอนทางไกล
3. การสร้างสื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอน
4. การพยากรณ์อากาศ

3. การฝากถอนเงินผ่านเอทีเอ็ม (ATM) เป็นลักษณะเด่นของเทคโนโลยีสารสนเทศข้อใด?
1. ระบบอัตโนมัติ
2. เปลี่ยนรูปแบบการบริการเป็นแบบกระจาย
3. เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการดำเนินการในหน่วยงานต่างๆ
4. เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

4. ข้อใดคือการประยุกต์ใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศ?
1. ระบบการโอนถ่ายเงินทางอิเล็กทรอนิกส์
2. บัตรเอทีเอ็ม บัตรเครดิต
3. การติดต่อข้อมูลทางเครือข่าย
4. ถูกทุกข้อ

5. เทคโนโลยีสารสนเทศหมายถึงข้อใด?
1. การประยุกต์เอาความรู้มาทำให้เกิดประโยชน์ต่อมวลมนุษย์
2. ข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี
3. การนำเทคโนโลยีด้านคอมพิวเตอร์มาสร้างข้อมูลเพิ่มให้กับสารสนเทศ
4. การนำเอาคอมพิวเตอร์มาใช้ในการจัดเก็บข้อมูล

6. เครื่องมือที่สำคัญในการในการจัดการสารสนเทศในยุคเทคโนโลยีสารสนเทศคืออะไร?
1. เทคโนโลยีการสื่อสาร
2. สารสนเทศ
3. คอมพิวเตอร์
4. ถูกทุกข้อ

7. ข้อใดไม่ใช่บทบาทของเทคโนโลยีสารสนเทศ?
1. เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
2. เทคโนโลยีสารสนเทศสามารถเปลี่ยนสั่งซื้อสินค้าจากที่บ้าน หรือสอบถามผลสอบได้
3. เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้บุคคลทุกระดับติดต่อกันได้อย่างรวดเร็ว
4. เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้มีการสร้างที่พักอาศัยที่มีคุณภาพ

8. ข้อใดไม่ใช่อุปกรณ์ที่ช่วยงานด้านสารสนเทศ?
1. เครื่องถ่ายเอกสาร
2. เครื่องโทรสาร
3. เครื่องมินิคอมพิวเตอร์
4. โทรทัศน์ วิทยุ

9. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับ เทคโนโลยีสารสนเทศ?
1. เป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินงานธุรกิจ
2. พัฒนาอย่างรวดเร็วทั้งทางด้านฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ ข้อมูล และการสื่อสาร
3. ไม่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
4. จะเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น

10. ข้อใดคือประโยชน์ที่ได้จากการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้กับการเรียน?
1. ตรวจสอบผลการลงทะเบียน ผลการสอบได้
2. สามารถสืบค้นข้อมูลได้จากแหล่งข้อมูลที่มีอยู่ทั่วโลกได้
3. ติดต่อสื่อสารกับเพื่อน ครู อาจารย์ หรือส่งงานได้ทุกที่
4. ถูกทุกข้อ


แบบฝึกหัดที่5

            แบบฝึกหัดบทที่ 5 การจัดการสารสนเทศ

แบบฝึกหัดบทที่ 5 การจัดการสารสนเทศ กลุ่มที่เรียน 1
รายวิชาการจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน รหัสวิชา 0026008
ชื่อ นางสาว พุฒิพร สกุล พิมพ์ครซ้าย คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมการผลิต
ระบบปกติ  รหัสนิสิต 57010310153 

คำชี้แจง จงตอบคำถามต่อไปนี้

1. จงอธิบายความหมายของการจัดการสารสนเทศ
การจัดการสารสนเทศ (Information management) คือ การวางแผน จัดหา รวบรวม จัดเก็บ รักษา และส่งต่อแพร่กระจายสารสนเทศไปยังผู้ใช้ เพื่อประโยชน์ในการใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเครื่องมือ ทั้งนี้ เพื่อปรับปรุงพัฒนาสมรรถนะการบริหารงานและการดำเนินงานขององค์กร สร้างนวัตกรรม เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน และมุ่งสู่การเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้

2. การจัดการสารสนเทศมีความสำคัญต่อบุคคลและต่อองค์การอย่างไร
การจัดการสารสนเทศ เป็นการบริหารจัดการขององค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน มักจะมีรายละเอียดปลีกย่อยลงไปแล้วแต่ประเภทและขนาดขององค์กร ไม่ได้มีลักษณะเป็น “One size fits all” อาจเป็นองค์กรที่ทำหน้าที่จัดเก็บและบริการสารสนเทศโดยตรง เช่น ห้องสมุด หรือองค์กรที่ใช้สารสนเทศในการดำเนินธุรกิจทั้งขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ หรือระดับประเทศก็ได้ ปัจจุบันมีธุรกิจรับจ้างจัดการสารสนเทศสำหรับองค์กรภาคธุรกิจเกิดขึ้น เพื่อให้การบริหารจัดการสารสนเทศภายในองค์กรเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ผลิตสารสนเทศที่ถูกต้อง มีคุณภาพ ทันสมัย และเชื่อถือได้ มีการใช้เมทาดาทาที่ถูกต้อง จัดทำฐานข้อมูลและจัดทำเหมืองข้อมูล (Data Mining) โดยดึงข้อมูลแต่ละกลุ่มที่กำหนดไว้ในแผนที่สารสนเทศ (Information Map) ขึ้นมาใช้เมื่อต้องการ กำหนดวัตถุประสงค์ของการใช้สารสนเทศ การเข้าถึงสารสนเทศ กำหนดว่าใครมีสิทธิเข้าถึงได้ ใครที่ไม่มีสิทธิเข้าถึง การจัดเก็บและรักษาความปลอดภัยของสารสนเทศ การกำจัดสารสนเทศที่ไม่ใช้แล้ว หรือไม่มีประโยชน์ การจัดการระเบียนเอกสารสำคัญต่างๆ เช่น เอกสารทางกฎหมาย การเงิน การค้า งานวิจัย ทรัพย์สินทางปัญญา เป็นต้น ระบบการจัดการสารสนเทศ (information management systems) อาจแยกย่อยตามประเภทและกิจกรรมของสารสนเทศ เช่น ระบบการจัดการเอกสาร ระบบการจัดการระเบียนบันทึก ระบบการจัดการเนื้อหาบนเว็บ ระบบการจัดการคลังสื่อดิจิทัล ระบบการจัดการสื่อการเรียนการสอน ระบบการจัดการห้องสมุด เป็นต้น

3. พัฒนาการของการจัดการสารสนเทศแบ่งออกเป็นกี่ยุค อะไรบ้าง
แบ่งเป็น 4 ยุค                                                                                                                             
ยุคที่ 1 การประมวลผลข้อมูล (Data Processing Age) มีวัตถุประสงค์เพื่อการคำนวณและการประมวลผลข้อมูลของรายการประจำ (Transaction Processing) เพื่อลดค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร
ยุคที่ 2 ระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารจัดการ (management Information System : MIS) มีการใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการตัดสินใจ ควบคุม ดำเนินการ ติดตามผลและวิเคราะห์ผลงานของผู้บริหารระดับต่าง ๆ
ยุคที่ 3 การจัดการทรัพยากรสารสนเทศ (Information Resource Management) ใช้คอมพิวเตอร์เพื่อเรียกใช้สารสนเทศที่จะช่วยในการตัดสินใจนำหน่วยงานไปสู่ความสำเร็จ
ยุคที่ 4 ยุคปัจจุบันหรือยุคเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology : IT) ใช้ระบบคอมพิวเตอร์และระบบการสื่อสารโทรคมนาคมเป็นเครื่องมือช่วยในการจัดทำระบบสารสนเทศ และเน้นความคิดของการให้บริการสารสนเทศแก่ผู้ใช้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นวัตถุประสงค์สำคัญ

4. จงยกตัวอย่างการจัดการสารสนเทศที่นิสิตใช้ในชีวิตประจำวันมา อย่างน้อย 3 ตัวอย่าง
1. ใช้โน๊ตบุ๊คเพื่อทำงาน พิมพ์งาน หรือใช้ทำกิจกรรมอื่นๆ
2. การใช้ โทรศัพท์มือถือเพื่อการติดต่อสื่อสาร
3. การลงทะเบียนเรียน

วันอาทิตย์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

บทความที่4 เรื่อง20ที่เที่ยวฮิตในเมืองไทย


                                            20 ที่เที่ยวฮิตในเมืองไทย


1.บ้านอีต่อง ที่ตั้งอ.ทองผาภูมิจ.กาญจนบุรีหน้าหนาวที่นี้ไม่มีหมอกทว่าในหน้าฝนบ้านอีต่องจะปกคลุมด้วยหมอกเกือบตลอดทั้งวัน ด้วยตั้งอยู่บนเทือกเขาตะนาวศรีได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้จากทะเลอันดามันฝั่งพม่าใครที่ชอบความเย็นฉ่ำของละอองฝนแนะนำให้ลองมาสัมผัสซักครั้ง



2.ล่องแก่งลุ่มน้ำเข็ก ที่ตั้ง อ.วังทอง จ. พิษณุโลกเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่น่าสนใจของฤดูฝนนี้ล่องก่อน้ำเข็กเริ่มตั้งแต่เดือน พ.ค. -ธ.ค. ไปกริ๊ดให้สุดเลียงแต่แรงเหวี่ยงของสายน้ำที่ไหลผ่านแก่งหินซึ่งจัดอยู่ในระดับ 3-5 ตลอดระยะทาง 9 กม


3.อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ที่ตั้ง อ. ปากช่อง จ. นครราชสีมา แม้ผาเดียวดายปิดในช่วงหน้าฝนทว่าในช่วงปลายฝนจะเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวให้เข้าไปสัมผัสความสมบูรณ์ของป่าดิบเขาบนพื้นที่สูงประมาณ 1,000 ม.จากระดับน้ำทะเล ในบรรยากาศเย็นสบาย จนได้รับการขนานนามว่าเป็น"ป่าเมฆ"



4.แม่สะเรียง ที่ตั้ง อ. แม่สะเรียง จ. แม่ฮ่องสอน แม่สะเรียงเป็นอำเภอซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำยวม มีลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบเล็กๆซึ่งในฤดูฝนจะกลาย้เป็นทุ่งนาอันเขียวละมุนตาของต้นข้าวที่ถูกดำลงดินนับพันต้นส่วนในย่านเมืองก็มีเกสต์เฮ้าส์และโรงแรมขนาดเล็กให้นักท่องเที่ยวพักให้หายเหนื่อยก่อนเดินเที่ยววัดและวิถีของชาวไทยใหญ่และกะเหรี่ยง


5.อุทยานสวนหินพุทธสถานทวารวดีอู่ทองนิเวศ ตั้งอยู่ภายในสำนักปฎิบัติธรรมพุหางนาคอ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรีเป็นสวนหินธรรมชาติสันนิษฐานว่าเกิดจากลาวาของภูเขาไฟถูกกัดเซาะจากลมและฝนทำให้เกิดเป็นรูปร่างต่างๆ ดูสวยงามแปลกตา และยังมีต้นจันทน์ผาอายุหลายร้อยปี ต้นสลัดได ต้นพุดป่า ต้นจำปีป่า ต้นกระเจียวและกล้วยไม้ดินซึ่งจะเจริญเติบโตได้ดีในช่วงหน้าฝน



6.ภูสอยดาวที่ตั้งอ.น้ำปาดจ.อุตรดิตถ์ต้องบอกก่อนว่าช่วงต้นฤดูฝนที่นี้จะปิดและเปิดอีกครั้งในประมาณเดือนส.ค.ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับดอกหงอนนาคจะบานสะะพรั่งอวดสีม่วงอ่อนตัดกับสีเขียวของต้นหญ้าและสนต้นสูงชะลูดซึ่งขึ้นเต็มพื้นที่ยิ่งในช่วงที่แสงอาทิตย์อัสดงสาดพาดลงบนหมู่ดอกหงอนนาคดูราวกับมีสวรรค์อยู่บนพื้นดิน



7.ภูทับเบิก ที่ตั้ง อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ ทิวทัศน์กะหล่ำนับหมื่นดอก คงเป็นที่ไหนไม่ได้นอกจากภูทับเบิกแต่หลายคนนิยมเที่ยวในหน้าหนาวน้อยคนที่จะรู้ว่าหน้าฝนที่นี้ก็สุดยอดยิ่งมาในช่วงหลังฝนตกใหม่ๆที่นี้จะปกคลุมไปด้วยหมอกละอองฝนปกคลุมทิวเขาทุ่งกะหล่ำปลี



8.ภูชี้ฟ้า ที่ตั้ง บ้านร่มฟ้าไทย ต.ตับเต่า อ.เทิง จ.เชียงราย เมื่อพูดถึงทะเลหมอก ภูชี้ฟ้ามักเป็นจุดหมายต้นๆที่หลายคนนึกถึงภูชี้ฟ้าเป็นหน้าผายื่นออกไปเหนือทะเลหมอกในตอนเช้าของฤดูฝนและฤดูหนาวหมอกจะปกคลุมหุบเขาด้านล่าง นักท่องเที่ยวต้องตื่นเช้าเพื่อเดินขึ้นภู รอชมพระอาทิตย์ขึ้น


9.ดอยอ่างขาง ที่ตั้ง ดอยอ่างขาง บ้านคุ้ม ต. แม่งอน อ. ฝาง จ. เชียงใหม่ ด้วยภูมิประเทศที่เป็นหุบเขาทำให้ที่นี้มีอากาศเย็นตลอดทั้งปีในช่วงฤดูหนาวตอนเช้าจะเกิดทะเลหมอกสีขาวสะอาดลอยระเรื่อยๆไปกับแปลงผักเมืองหนาว



10.อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง ที่ตั้งอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง อ. แม่แตง จ. เชียงใหม่ ที่นี้ขึ้นชื่อทะเลหมอกที่สวยงามนักท่องเที่ยวนิยมกางเต็นท์บริเวณศูนย์บริการนักท่องเที่ยวหรือดอยกิ่วลมซึ่งสามารถชมทะเลหมอกในตอนเช้า นอกจากทะเลหมอกที่หนาแน่นแล้วยังมองเห็นดอยเชียงดาวเป็นฉากหลังด้วย


11.อุทยานแห่งชาติขุนสถาน ที่ตั้ง อุทยานแห่งชาติขุนสถาน อ. นาหมื่น จ. น่าน แสงทองฉาบบนทะเลหมอกมีให้เห็นที่ขุนสถาน เช้าในฤดูหนาวแนะนำให้รีบจับจองพื้นที่กลางเต็นท์ บริเวณที่ทำการซึ่งตั้งอยู่บนดอยแม่จอกสูงประมาณ1,469ม.จากระดับน้ำทะเล สามารถมองเห็นทะเลหมอกได้


12. ม่อนกิ่วลม ที่ตั้ง อุทยานแห่งชาติแม่เมย อ.ท่าสองยาง จ.ตากจุดชมทะเลหมอกที่สวยงามแห่งหนึ่งของอุทยานแห่งชาติแม่เมยความหนาแน่นของทะเลหมอกที่ปกคลุมเทือกเขาย้อมด้วยเสียงทองตอนเช้าของพระอาทิตย์ เป็นภาพที่น่าประทับใจ



13.ภูหัวฮ่อม ที่ตั้ง อุทยานแห่งชาติภูสวนทราย ต. แสงภา อ. นาแห้ว จ. เลย มีอากาศเย็นสบายตลอดปี ในช่วงฤดูหนาวจะมีทะเลหมอกปกคลุมเทือกเขาสลับซับซ้อนด้านล่างซึ่งกั้นพรมแดนไทย-ลาวให้ชม นอกจากนี้ไม่ไกลกันมีแปลงสตรอว์เบอร์รี่และผลิตภัณฑ์จากแมคคาเดเมียให้ชิมด้วย


14.หาดทรายแก้ว เกาะเสม็ด ที่ตั้ง ต.เพ อ.เมืองระยองเป็นหาดที่ยาวและสวยที่สุดของเสม็ด มีทรายขาวเนียนละเอียดเม็ดทรายขาวใสคล้ายผลึกแก้วจากชายหาดมีแนวปะการังให้ชมด้วยเป็นหาดที่มีความคึกคัก มีร้านอาหารและเครื่องเล่นทางน้ำให้สนุกด้วย



15.หาดอ่าวมะนาว ที่ตั้งกองบิน 5 กองทัพอากาศ ต.เกาะหลัก อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์หาดมีลักษณะโค้งเกือบเป็นวงกลมคล้ายกับผลมะนาวร่มรื่นด้วยทิวสนประดิพัทธ์จากชายหาดสามารถมองเห็นเขาล้อมหมวกและเขาคลองวาฬ นักท่องเที่ยวนิยมมาเล่นน้ำทะเลเพราะน้ำไม่ลึก


16.น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น ที่ตั้งอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรีเกิดจากลำห้วยแม่ขมิ้นในเทือกเขากะลาไหลลดหลั่นไปตามเทือกเขาหินปูนมีทั้งหมดเจ็ดชั้นได้แก่ ชั้นว่านดง ม่านขมิ้น วังหน้าผา ฉัตรแก้ว ไหลจนหลง ดงผีเสื้อ และร่มเกล้า ตลอดเส้นทางนักท่องเที่ยวสามารถชมพันธุ์ไม้ในป่าดิบแล้งได้ด้วย


17.น้ำตกคลองลาน ที่ตั้งอุทยานแห่งชาติคลองลานอ.คลองลานจ.กำแพงเพชรถือเป็นน้ำตกที่สวยงามที่สุดของ จ. กำแพงเพชร สายน้ำตกเกิดจากต้นน้ำบนยอดเขาคลองลานไหลผ่านโตรกผาสูงราว 100 ม. ก่อนตกลงแอ่งด้านล่างซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถลงเล่นน้ำ



18.น้ำตกแม่สุรินทร์ ที่ตั้ง: อุทยานแห่งชาติน้ำตกแม่สุรินทร์ อ. ขุนยวม จ. แม่ฮ่องสอน เป็นน้ำตกที่มองระยะไกลจะงดงามที่สุดเพราะสายน้ำอันเกิดจากลำห้วยแม่สุรินทร์ไหลทิ้งตกผ่านโตรกผาโดยสองข้างทางเป็นภูเขาสูงและโขดหินขนาดใหญ่ ที่มีมอสและเฟิร์นขึ้นปกคลุมเขียวขจี


19.น้ำตกทีลอซู ที่ตั้ง อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง อ. อุ้มผาง จ. ตาก ได้ชื่อว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตัวน้ำตกไหลทิ้งตัวจากหน้าผาสูงราว 200 ม. และกว้างราว 400 ม. เมื่อถึงบริเวณน้ำตกนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสละอองน้ำซึ่งฟุ้งกระจายไปทั่วโดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนน้ำตกจะยิ่งสวยงาม


20.น้ำตกตาดเหือง ที่ตั้ง อุทยานแห่งชาติภูสวนทราย อ. นาแห้ว จ. เลย เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ ตัวน้ำตกเกิดจากน้ำเหืองที่ไหลกั้นพรมแดนไทย-ลาว สายน้ำไหลตกจากผาหินสูงประมาณ 30 ม. และแผ่กว้าง 40 ม. มีน้ำตลอดทั้งปี เหมาะกับการเล่นน้ำพักผ่อนมาก ยกเว้นช่วงน้ำหลาก






แหล่งข้อมูลอ้างอิง